ลิงก์ขาเข้าถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญของการจัดอันดับบน Google Search Engine และหากลิงก์ขาเข้าหายไปอย่างกะทันหัน อาจทำให้การจัดอันดับคีย์เวิร์ดดิ่งลงอย่างรวดเร็ว และอาจส่งผลให้เว็บไซต์สูญเสียคะแนนความน่าเชื่อถือได้
Table of Contens
Toggleผลกระทบของการที่ลิงก์ขาเข้าหายไปต่อเว็บไซต์มีมากแค่ไหน?
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้วลิงก์ขาเข้ายังอยู่ ทำไมจู่ๆ ถึงหายไปหมด?” นี่คือปฏิกิริยาของเจ้าของเว็บไซต์หลายคนเมื่อพบว่าลิงก์ขาเข้าจากฟอรั่มถูกลบออก
ลิงก์ขาเข้าคล้ายกับ “สิทธิ์การโหวต” ของเว็บไซต์ โดยเฉพาะลิงก์ย้อนกลับจำนวนมาก ที่สามารถส่งผ่านน้ำหนัก SEO ได้โดยตรง
เมื่อสูญเสียลิงก์จำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น จะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการจัดอันดับคีย์เวิร์ด

ผลกระทบโดยตรงในระยะสั้น (1-30 วัน):
- อันดับคีย์เวิร์ดดิ่งลงอย่างรุนแรง: โดยเฉพาะหน้าที่พึ่งพาลิงก์ขาเข้าเป็นหลัก (ตัวอย่าง: หน้าของเครื่องมือที่สูญเสียลิงก์ขาเข้า 50% อันดับลดจากที่ 1 เหลือที่ 7)
- ช่องทางเข้าของทราฟฟิกถูกตัดขาด: ลิงก์จากฟอรั่มมักนำผู้ใช้เป้าหมายเข้ามา เมื่อหายไปจะส่งผลให้การแปลง (conversion) ลดลงอย่างมาก (ตัวอย่าง: บริษัท B2B ที่ลิงก์จากฟอรั่มคิดเป็น 15% ของทราฟฟิก เมื่อถูกลบสอบถามสินค้าลดลงครึ่งหนึ่ง)
- ความถี่การเก็บข้อมูลของบอทลดลง: Google ใช้ลิงก์ขาเข้าในการค้นพบหน้าเว็บใหม่ การสูญเสียลิงก์จำนวนมากจะลดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
ความเสี่ยงในระยะยาว (มากกว่า 30 วัน):
- การขาดความต่อเนื่องของการส่งผ่านน้ำหนัก SEO: ส่งผลต่อการหมุนเวียนน้ำหนักระหว่างหน้าแรกและหน้าภายใน (เครื่องมือทดสอบ: เว็บไซต์หนึ่งสูญเสียลิงก์ขาเข้าที่หน้าแรก 20% อัตราการจัดเก็บหน้าภายในลดลง 40%)
- ต้นทุนการกู้คืนสูง: การสร้างลิงก์ขาเข้าระดับเดียวกันใหม่ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน และการกู้คืนลิงก์จากฟอรั่มมีอัตราสำเร็จน้อยกว่า 10%
กรณีตัวอย่าง “ผลกระทบที่สำคัญ”:
- ลิงก์ขาเข้าที่มีน้ำหนักต่ำถูกลบทั้งหมด: บล็อกแห่งหนึ่งสูญเสียลิงก์จากฟอรั่มกว่า 200 รายการ หลัง 3 เดือน คะแนนโดเมน (DR) ลดจาก 58 เหลือ 32
- ผลกระทบจากการใช้ 301 Redirect อย่างผิดวิธี: พยายามใช้การเปลี่ยนเส้นทางเพื่อแก้ไขลิงก์ขาเข้า แต่ถูก Google ลงโทษ (เครื่องมือวัดพบว่า เวลาที่ผู้ใช้ค้างอยู่บนหน้าเปลี่ยนเส้นทางลดลงจาก 3 นาที เหลือ 40 วินาที)
จะตรวจสอบอย่างไรว่าเรื่องนี้ต้องรีบแก้ไขทันทีหรือไม่?
“ลิงก์ขาเข้าหายไปหลายร้อยภายในวันเดียว เราควรแก้ไขลิงก์ไหนก่อนดี?”
ลิงก์ขาเข้าคือทรัพยากรที่ต้องสร้างอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทางที่สร้างครั้งเดียวแล้วจบ
เพียงแค่สร้างลิงก์ย้อนกลับใหม่มากขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้
3 ตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินความเร่งด่วน (เครื่องมือ + มาตรฐาน):
สัดส่วนลิงก์ขาเข้าที่หายไป:
- ใช้ Ahrefs (Backlink Audit) หรือ Semrush (Lost Backlinks) เพื่อตรวจจับลิงก์ที่เสียหาย
- เกณฑ์เร่งด่วน: อัตราการสูญเสียภายใน 72 ชั่วโมงเกิน 15% และจำนวนลิงก์ที่หายมากกว่า 500 รายการ
น้ำหนักเว็บไซต์ต้นทาง:
- ให้ความสำคัญกับลิงก์จากฟอรั่มที่มี DA > 1 (ตามมาตรฐาน MOZ) และเว็บไซต์รัฐบาล/การศึกษา
- สัญญาณอันตราย: ลิงก์จากฟอรั่มอันดับ Top5 ของอุตสาหกรรมถูกลบเป็นจำนวนมาก
ประเภทหน้าที่ได้รับผลกระทบ:
- หน้าหลัก/หน้าสินค้าหลักที่สูญเสียลิงก์: ส่งผลกระทบทันทีต่อตัวเลขทราฟฟิก (ตัวอย่าง: หน้าหลักสูญเสียลิงก์ขาเข้าทำให้ทราฟฟิกเว็บไซต์ลดลง 25%)
- หน้าคอนเทนต์ยาว (Long tail) ที่ลิงก์ขาเข้าหายไป: สามารถรอการแก้ไขได้
3 สถานการณ์ที่ต้องรีบแก้ไขทันที:
- ลิงก์ขาเข้าที่มีน้ำหนักสูงหายไปจำนวนมาก: เช่น ลิงก์จากฟอรั่มที่มี DR ≥ 80, ลิงก์จากสื่อข่าว
- มีการแจ้งรายงานโดยคู่แข่ง: พบว่าลิงก์จำนวนมากถูกลบจากแพลตฟอร์มเดียวกัน (ติดตามด้วย Moz Link Explorer)
- ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย: เช่น ลิงก์ที่จ่ายเงินในฟอรั่มที่ถูกลบ ซึ่งอาจถูกระบบอัลกอริทึมตัดสินว่าเป็นการจัดการอันดับ
สถานการณ์ที่สามารถเลื่อนการแก้ไขได้:
- ลิงก์จากลายเซ็นหรือคอมเมนต์ที่ไม่ได้ถูกจัดเก็บในดัชนี
- ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับธีมเว็บไซต์ (เช่น เว็บไซต์ความงามโพสต์ลิงก์ในเว็บไซต์คู่แข่งอย่างไม่ถูกต้อง)
- ลิงก์ที่หมดอายุหรือหายไปเกิน 6 เดือน
แผนการรับมือฉุกเฉิน 4 ขั้นตอน (พร้อมคำแนะนำปฏิบัติ)
ขั้นตอนที่ 1: ระบุลิงก์ขาเข้าที่มีปัญหาภายใน 24 ชั่วโมง
การใช้งานเครื่องมือ:
- ใช้ Screaming Frog (ตั้งค่าโหมด “ตรวจสอบลิงก์ขาเข้า”) สแกนลิงก์ขาเข้าทั้งหมดที่เสีย และส่งออกเป็นไฟล์ CSV
- ใช้ Ahrefs ใส่โดเมน → Backlink Audit → กรองที่ “Lost Links” แล้วเรียงตามค่า DR จากสูงไปต่ำ
รายละเอียดสำคัญ:
- ทำเครื่องหมายแหล่งที่มาของลิงก์ (เช่น ชื่อฟอรั่ม หรือหมวดหมู่), ข้อความที่ใช้ลิงก์ และวันที่ลิงก์เสีย
- ตัดลิงก์แบบ “nofollow” ออก (ไม่มีผลต่อ SEO แต่เป็นส่วนหนึ่งของลิงก์ธรรมชาติ ถ้าสูญเสียมากควรพิจารณาสร้างใหม่)
ขั้นตอนที่ 2: จัดลำดับความสำคัญและเร่งกู้คืน “ลิงก์ทองคำ”
เกณฑ์ลำดับความสำคัญ:
ระดับ 1 (ต้องแก้ไขภายใน 72 ชั่วโมง):
- ลิงก์จากรัฐบาล/สถาบันการศึกษาที่มี DA≥80
- ลิงก์ฟอรั่มที่นำผู้ใช้ไปยังหน้าหลักหรือหน้าสินค้าหลัก (ใช้ GA4 ตรวจสอบลิงก์ที่มี Conversion)
ระดับ 2 (แก้ไขภายใน 7 วัน):
- ลิงก์ฟอรั่มที่มี DA≥50
- ลิงก์หลักที่นำทราฟฟิกมายังหน้าคอนเทนต์แบบ Long tail
ระดับ 3 (สามารถละเว้นได้):
ลิงก์ย้อนกลับที่ DA=0 และไม่ได้ถูกจัดเก็บในดัชนี
ขั้นตอนที่ 3: กลยุทธ์การกู้คืน 3 วิธี (พร้อมแบบฟอร์มข้อความ)
กลยุทธ์ที่ 1: ติดต่อแพลตฟอร์มต้นทางเพื่อขอคืนสถานะ
สถานการณ์ที่เหมาะสม: กระทู้ในฟอรั่มถูกลบโดยไม่ตั้งใจหรือเนื่องจากการปรับกฎระเบียบ
แบบฟอร์มปฏิบัติการ:
- ใช้ Archive.org ค้นหาภาพสแนปช็อตของกระทู้ แล้วจับภาพหน้าจอเพื่อยืนยันว่าเนื้อหาปฏิบัติตามกฎ
- ส่งอีเมลติดต่อผู้ดูแลบอร์ด (หัวข้อระบุว่า “ด่วน: ขออุทธรณ์การลบเนื้อหาคุณภาพโดยผิดพลาด”)
ตัวอย่างเนื้อหา:
"สวัสดีครับ/ค่ะ กระทู้ ‘XX攻略’ ที่เราโพสต์ในฟอรั่มของท่านเคยช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้กว่า 300 คน (แนบภาพสแนปช็อต),
แต่ลิงก์นี้เพิ่งหมดอายุ เนื้อหานี้สอดคล้องกับกฎระเบียบข้อที่ X กรุณาช่วยคืนสถานะให้ด้วยครับ/ค่ะ เรายินดีส่งข้อมูลเวอร์ชันอัปเดตให้" กลยุทธ์ที่ 2: ใช้สแนปช็อตสำรอง + 301 รีไดเร็กต์
สถานการณ์ที่เหมาะสม: ไม่สามารถกู้คืนกระทู้เดิมได้ แต่หน้าดังกล่าวเคยถูกเก็บโดยเสิร์ชเอนจิน
ขั้นตอนปฏิบัติ:
- บันทึกหน้าสแนปช็อตจาก Archive.org เป็นไฟล์ PDF หรือหน้าเว็บ
- สร้างหน้าใหม่บนเว็บไซต์ของตัวเอง (โครงสร้าง URL: /archive/ชื่อกระทู้เดิม) และอัปโหลดเนื้อหา
- ตั้ง 301 รีไดเร็กต์จากลิงก์เดิมไปยังหน้าที่สร้างใหม่ (เฉพาะลิงก์ที่มีอำนาจสูง)
กลยุทธ์ที่ 3: สร้างลิงก์ใหม่ด้วยเนื้อหาแทนที่
สถานการณ์ที่เหมาะสม: กระทู้ถูกลบถาวรและไม่สามารถติดต่อได้
แผนปฏิบัติ:
- อัปเกรดเนื้อหาตามหัวข้อของลิงก์เดิม เช่น เพิ่มกราฟข้อมูล วิดีโอสอน
- โพสต์ใหม่ในฟอรั่มที่เกี่ยวข้อง (แก้ไขเนื้อหามากกว่า 30% เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน)
- ใช้ Hunter.io ติดต่อเว็บไซต์ลิงก์เดิม ขอเปลี่ยนเป็นลิงก์ใหม่
ขั้นตอนที่ 4: ส่งอัปเดตไปยังเสิร์ชเอนจิน (สำคัญมาก!)
กระบวนการของ Google:
- ลบลิงก์ตายออก จากนั้นส่งแผนผังเว็บไซต์เวอร์ชันใหม่ใน Google Search Console
- ถ้าลิงก์เกี่ยวข้องกับ SEO แบบผิดกฎ (เช่น โพสต์ติดหัวในฟอรั่มที่เสียค่าใช้จ่าย) ให้ใช้ Disavow Tool เพื่อปฏิเสธ
กลยุทธ์ระยะยาวป้องกันความเสี่ยงจากลิงก์ภายนอก
กลยุทธ์ที่ 1: สร้าง “คูเมืองลิงก์ภายนอกจากเว็บไซต์อิสระ”
ตรรกะหลัก:
- ลิงก์ภายนอกจากเว็บไซต์อิสระ (เช่น บล็อกส่วนตัว หรือเว็บไซต์เครื่องมือ) สามารถควบคุมได้เต็มที่ ลดความเสี่ยงจากการลบโพสต์ของแพลตฟอร์มอื่น
- สร้าง “คะแนนโดเมน” (Domain Authority) ผ่านเว็บไซต์อิสระ ช่วยกระจายความเสี่ยงของลิงก์
แผนปฏิบัติ:
- สร้างเว็บไซต์เครื่องมือ: พัฒนาเครื่องมือ SEO (เช่น ตัวตรวจสอบลิงก์ภายนอก, เครื่องสร้างคำหลัก) เพื่อดึงดูดลิงก์ภายนอกธรรมชาติ (ตัวอย่าง: เจ้าของเว็บคนหนึ่งใช้เครื่องมือตรวจสอบลิงก์ฟรีได้รับลิงก์จากเว็บไซต์อิสระกว่า 200 แห่ง)
- คลังเอกสารอุตสาหกรรม: รวบรวมไวท์เปเปอร์ คู่มือมาตรฐาน (เช่น “คู่มือความสอดคล้องสำหรับอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน”) เพื่อให้เพื่อนร่วมอุตสาหกรรมอ้างอิงลิงก์
- รวบรวมเนื้อหา UGC: สร้างระบบส่งเนื้อหาจากผู้ใช้ (เช่น คลังตัวอย่างกรณีอุตสาหกรรม) สร้างเนื้อหาที่มีลิงก์ภายนอกจากเว็บไซต์อิสระโดยอัตโนมัติ
กลยุทธ์ที่ 2: กระจายแหล่งที่มาของลิงก์ภายนอกด้วย “กฎ 4321”
สัดส่วนทองคำ:
- 40% ลิงก์ภายนอกจากเว็บไซต์อิสระ (เว็บไซต์เครื่องมือ, คลังเอกสาร)
- 30% ลิงก์ภายนอกจากสื่อ (ข่าวประชาสัมพันธ์, รายงานจากสื่ออุตสาหกรรม)
- 20% ลิงก์ภายนอกจากฟอรั่ม/ชุมชน (เก็บเฉพาะ 3 แพลตฟอร์มที่มีน้ำหนักสูงสุด)
- 10% อื่นๆ (โซเชียลมีเดีย, สารานุกรม ฯลฯ)
เครื่องมือช่วย:
ใช้ฟีเจอร์ “Link Intersect” ของ Ahrefs วิเคราะห์โครงสร้างแหล่งที่มาของลิงก์คู่แข่ง
ใช้ BuzzSumo ค้นหาเนื้อหาที่ได้รับการแพร่กระจายสูงในอุตสาหกรรม เพื่อผลิต “เหยื่อลิงก์” อย่างเจาะจง
กลยุทธ์ที่ 3: สร้างระบบตรวจสอบอัตโนมัติ
มิติการตรวจสอบ:
- อัตราการอยู่รอด: ตั้งการสแกนลิงก์ภายนอกทุกสัปดาห์ด้วย Linkody หรือ Monitor Backlinks
- การเก็บเนื้อหา: ใช้ Wayback Machine Downloader สำรองภาพสแนปช็อตหน้าลิงก์ภายนอกโดยอัตโนมัติ
การควบคุมค่าใช้จ่าย:
- แผนฟรี: ใช้ Google Sheets + Screaming Frog ตรวจสอบสถานะลิงก์ภายนอกเป็นระยะ
- แผนเสียค่าใช้จ่าย: ใช้ร่วมกันระหว่าง Ahrefs และ ContentKing ค่าบริการประมาณ 1000 หยวนต่อเดือนสำหรับเว็บไซต์ขนาดกลาง
กลยุทธ์ที่ 4: ป้องกันไม่ให้ลิงก์ภายนอกถูกจัดเก็บ “ลดความเสี่ยงเชิงรุก”
3 ประเภทของลิงก์ภายนอกที่ต้องล้างทิ้ง:
- ลิงก์ลายเซ็นในฟอรั่ม (ไม่ถูกจัดเก็บ และบอทไม่เก็บข้อมูล)
- หน้าที่ถูก Google ระบุว่าเป็น “ลิงก์ขยะ”
- ลิงก์ภายนอกที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ (ลิงก์โกง)
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย & คำถาม-คำตอบในทางปฏิบัติ
ส่วนความเข้าใจผิด: 3 ข้อผิดพลาดที่ 90% ของคนทำผิด
ข้อผิดพลาด 1: เห็นลิงก์ตายก็ลบเลย ทำความสะอาดมากเกินไป
- กรณีศึกษา: เจ้าของเว็บไซต์คนหนึ่งใช้เครื่องมือ Disavow ปฏิเสธลิงก์ภายนอกคุณภาพต่ำ 200 ลิงก์ หลังจาก 1 สัปดาห์ ปริมาณการเข้าชมลดลง 40%
- ความจริง: Google จะกรองลิงก์ขยะให้อัตโนมัติ การล้างทิ้งมากเกินไปกลับทำให้ลิงก์ที่ให้คะแนนเว็บไซต์เสียผล
ข้อผิดพลาด 2: ใช้ 301 รีไดเร็กต์เพื่อ “กู้คืน” ลิงก์ภายนอกโดยบังคับ
- กรณีศึกษา: รีไดเร็กต์ลิงก์ฟอรั่มที่หมดอายุไปยังหน้าแรก ทำให้คะแนนของหน้าแรกถูกเจือจาง และอันดับตกจากที่ 1 ลงเป็นที่ 6
- ความจริง: 301 รีไดเร็กต์ส่งคะแนนเพียง 10-15% และการใช้งานมากเกินไปจะทำให้บอทสงสัย
วิธีที่ถูกต้อง: เนื้อหาของหน้าที่รีไดเร็กต์ต้องตรงกันมากกว่า 80%
ข้อผิดพลาด 3: ลิงก์ฟอรั่มถูกลบแล้วรีบโพสต์ซ้ำทันที
- กรณีศึกษา: เว็บไซต์เกมแห่งหนึ่งโพสต์ลิงก์ซ้ำในฟอรั่มเดียวกัน 3 ครั้งติดต่อกัน ถูกแพลตฟอร์มแบนและโดเมนถูก Google ลดอันดับ
- ความจริง: การโพสต์ซ้ำในระยะเวลาสั้นจะถูกมองว่าเป็น “ฟาร์มลิงก์”
วิธีที่ถูกต้อง: เว้นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน และแก้ไขเนื้อหามากกว่า 60%
คำถาม-คำตอบในทางปฏิบัติ: 5 คำถามที่เจ้าของเว็บไซต์สนใจมากที่สุด
ถาม: หลังจากลิงก์ภายนอกเสีย จะส่งผลต่ออันดับในกี่วัน?
ตอบ:
ลิงก์ภายนอกที่มีคะแนนสูง: อันดับจะลดลงภายใน 30-60 วัน (จำนวนไม่มาก ผลกระทบโดยรวมต่อเว็บไซต์น้อย)
ลิงก์ภายนอกทั่วไป: อันดับจะลดลงภายใน 3-7 วัน ยิ่งจำนวนมากผลกระทบยิ่งมาก
ถาม: หากลิงก์ภายนอกจากเว็บไซต์อิสระของตัวเองเสีย ควรทำอย่างไร?
ตอบ:
- ใช้ Screaming Frog ตรวจสอบการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ (เช่น robots.txt บล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ)
- ถ้าเนื้อหาถูกลบ ใช้ Wayback Machine กู้คืนหน้าและทำ 301 รีไดเร็กต์
ถาม: หากคู่แข่งรายอื่นแจ้งลิงก์ภายนอกอย่างไม่สุจริต ควรรับมืออย่างไร?
ตอบ:
- ใช้ Ahrefs ติดตามการสูญเสียลิงก์ หากลิงก์จำนวนมากในแพลตฟอร์มเดียวกันหายไป ให้เก็บภาพหน้าจอเป็นหลักฐาน
- ยื่นอุทธรณ์กับแพลตฟอร์ม (แนบหลักฐานความเป็นเจ้าของ) และส่ง “รายงานการโจมตีที่เป็นอันตราย” ใน Google Search Console
ถาม: ใช้เครื่องมือ Disavow ปฏิเสธลิงก์ภายนอก จะมีผลภายในกี่วัน?
ตอบ:
- โดยเฉลี่ย 2-4 เดือน และต้องมีเงื่อนไข:
- ปฏิเสธลิงก์มากกว่า 100 ลิงก์
คำเตือนความเสี่ยง: หากปฏิเสธลิงก์ภายนอกที่ถูกต้อง อันดับจะลดลงถาวร!
ถาม: ควรควบคุมสัดส่วนลิงก์ฟอรั่มในลิงก์ภายนอกทั้งหมดที่เท่าไร?
ตอบ:
ช่วงปลอดภัย: ≤38% (อ้างอิงข้อมูลอุตสาหกรรมจาก Ahrefs)
หากเกิน 40% ควรค่อยๆ แทนที่ด้วยลิงก์จากเว็บไซต์อิสระและสื่อ
ต้องเผยแพร่ลิงก์ภายนอกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผล SEO ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่ควรทำครั้งเดียวจบแล้วปล่อยทิ้งไว้ เพราะสุดท้ายจะแพ้คู่แข่ง




