กันยายน 2025 พารามิเตอร์ num=100 ที่เคยอยู่ในแถบที่อยู่การค้นหาถูกลบออกอย่างถาวร
พารามิเตอร์นี้ที่ผู้ดูแลเว็บไซต์บางรายเรียกว่า “ทราฟฟิกหางยาว” เคยเป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้แสดง “ผลลัพธ์ 100 รายการ” ในการค้นหา (เช่น https://www.google.com/search?q=keyword&num=100) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูผลลัพธ์ได้มากขึ้นในครั้งเดียว และทำให้เว็บไซต์ที่อยู่อันดับ 11-100 ได้รับการมองเห็นเพิ่มเติม
แต่หลังจากการอัปเดต 87.7% ของเว็บไซต์มียอดการแสดงผลลดลงอย่างรุนแรง: ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ที่พึ่งพา “การเลื่อนดูรายการยาว” เพื่อรับทราฟฟิก รวมถึงเว็บไซต์เฉพาะทางที่เน้นการทำ SEO หางยาว
เครื่องมือของบุคคลที่สาม (เช่น Ahrefs, SEMrush) เริ่มแสดงข้อมูลผิดพลาด — เนื่องจากวิธีการดึงข้อมูลของพวกเขายังอิงกับพารามิเตอร์เก่า ทำให้ค่าการแสดงผลคลาดเคลื่อนเกิน 30% และอันดับปรากฏผันผวนผิดปกติ

Table of Contens
Togglenum=100 คืออะไร
num=100 คือพารามิเตอร์หนึ่งใน URL ของ Google Search (รูปแบบเต็มคือ &num=100) เดิมใช้ควบคุม “จำนวนผลลัพธ์ที่แสดงต่อครั้ง”
เครื่องมือ SEO (เช่น SEMrush, Ahrefs) มักใช้พารามิเตอร์นี้เพื่อดึงข้อมูลจำนวนมากในคราวเดียว (เช่น ตั้งค่าเป็น 100 เพื่อรับข้อมูล 100 รายการ) แต่สิ่งนี้ยังทำให้บางเครื่องมือ “ปั่นข้อมูล” เรียกซ้ำ ๆ ส่งผลให้ใน Search Console มี “จำนวนการแสดงผล” และ “จำนวนคีย์เวิร์ดครอบคลุม” สูงเกินจริง
“ปุ่มควบคุมการแบ่งหน้า” ของ Google Search
num=100 เป็นพารามิเตอร์ซ่อนของหน้าผลลัพธ์การค้นหา (SERP) ซึ่งกำหนดโดยตรงว่า “การร้องขอหนึ่งครั้งสามารถส่งผลลัพธ์กลับมาได้กี่รายการ”
- ค่าที่พบบ่อย: 10 (ค่าเริ่มต้น ต่อหน้า 10 รายการ), 20, 50, 100 (สูงสุด 100 รายการ)
- หลักการทำงาน: เมื่อผู้ใช้ค้นหาคีย์เวิร์ด หากเครื่องมือ (เช่นซอฟต์แวร์ SEO) ใส่ ?num=100 ต่อท้าย URL Google จะส่งผลลัพธ์ 100 รายการแรกกลับมาคราวเดียว แทนที่จะเป็นค่าเริ่มต้น 10 รายการ
ตัวอย่างเช่น:
ผู้ใช้ทั่วไปค้นหา “หูฟังไร้สายแนะนำ” จะเห็นเพียง 10 ผลลัพธ์แรกในหน้าแรก แต่เครื่องมือ SEO เมื่อใส่ ?num=100 จะสามารถดึงข้อมูลได้ตั้งแต่หน้า 1 ถึงหน้า 10 รวม 100 รายการ
ทำไมเครื่องมือจึงต้องพึ่งพามัน
สถิติอันดับคีย์เวิร์ด: ใช้ num=100 ดึงผลลัพธ์ 100 รายการในคราวเดียว เพื่อตรวจสอบว่าเว็บไซต์เป้าหมายอยู่อันดับใด
การวิเคราะห์คู่แข่ง: ดึงข้อมูล 100 อันดับแรกของคีย์เวิร์ดหลายคำ เพื่อเปรียบเทียบตำแหน่งของคู่แข่ง
การประเมินความครอบคลุมข้อมูล: ใช้จำนวนผลลัพธ์ที่ดึงได้เพื่อประเมินปริมาณการค้นหาของคีย์เวิร์ดนั้น
ตัวอย่างเช่น SEMrush เคยมีฟีเจอร์ “Keyword Magic” ที่ใช้ num=100 เป็นค่าเริ่มต้น โดยโฆษณาว่า “สร้างข้อมูลอันดับคีย์เวิร์ด 1000 คำภายใน 10 วินาที” — ประสิทธิภาพนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถดึงข้อมูลแบบกลุ่มของ num=100
ผลกระทบของข้อมูลสูงเกินจริง
เดือนกรกฎาคม 2025 สถาบัน LOCOMOTIVE ได้ทดสอบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ 200 แห่ง พบว่า:
| การเปรียบเทียบ | จำนวนการแสดงผลจากเครื่องมือที่ใช้ num=100 | จำนวนคลิกจริงจากผู้ใช้ | สัดส่วนสูงเกินจริง |
|---|---|---|---|
| คีย์เวิร์ดสั้น (เช่น “หูฟังบลูทูธ”) | 12,300 ครั้ง | 7,400 ครั้ง | 66% |
| คีย์เวิร์ดกลาง (เช่น “หูฟังบลูทูธตัดเสียงรบกวนผู้ชาย”) | 8,900 ครั้ง | 5,400 ครั้ง | 61% |
ผลกระทบจากข้อมูลสูงเกินจริง:
- ผู้ประกอบการเว็บไซต์ประเมินผลผิด: เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเล็กแห่งหนึ่งเห็นเครื่องมือแสดงว่า “คีย์เวิร์ดบางคำมีการแสดงผลเกิน 100,000” จึงลงทุนทำ SEO เพิ่ม แต่จำนวนการคลิกจริงมีเพียง 30,000 ทำให้งบประมาณสูญเปล่า
- รายงานอุตสาหกรรมบิดเบือน: ในรายงาน “แนวโน้ม SEO ทั่วโลก Q2 2025” ความยากของคีย์เวิร์ดสั้นถูกประเมินสูงเกินจริง 30% เพราะเครื่องมือจำนวนมากใช้ num=100 ขยายตัวเลขการแสดงผล
หลังจากลบ num=100 ยอดการแสดงผลเว็บไซต์ลดลง 87.7%
กันยายน 2025 หลังจาก Google ลบพารามิเตอร์ num=100 เว็บไซต์ที่ยังใช้งานทั่วโลกกว่า 2.3 ล้านแห่งมียอดการแสดงผลจากการค้นหาลดลงพร้อมกัน (ข้อมูลจาก Ahrefs วันที่ 21 ก.ย.)
…




